เรื่องความสวยความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน แต่ยิ่งอายุมากขึ้นปัญหาผิวกวนใจต่างๆ ก็ตามมา โดยเฉพาะปัญหาริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ผิวหน้าไม่เต่งตึงดังเดิม ดูแก่กว่าวัย สาวๆ หลายคนจึงเกิดความกังวล และต้องการหาตัวช่วยเพื่อย้อนอายุผิวหน้าให้ดูเด็กลง เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
การฉีด โบท็อก จึงเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมที่สาวๆ เลือกใช้ เพราะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย เห็นผลไว และมีเคสรีวิวมากมายยืนยันได้ว่าช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าเหี่ยวย่นให้กลับมาเต่งตึงได้จริง แต่ก่อนจะตัดสินฉีดโบท็อกเราต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน YB Clinic จึงรวบรวมสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับโบท็อกมาให้สาวๆ ได้อ่านกันค่ะ
รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ ก่อนฉีดโบท็อกซ์
โบท็อก (Botox) คืออะไร
โบท็อก (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อว่าคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) การฉีดโบท็อก เป็นการนำสาร Botulinum Toxin A ฉีดเข้าไปที่ผิวหนังบริเวณใบหน้าเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยปรับรูปหน้าให้มีความกระชับมากขึ้น
ลักษณะของโบท็อกจะเป็นน้ำโปรตีนสีใส เมื่อฉีดเข้าผิวจะออกฤทธิ์ไปที่เซลล์ประสาท บริเวณกล้ามเนื้อที่ฉีดจะหยุดหลั่งสารสื่อประสาทออกมา ทำให้เรารู้สึกหน้าชา ตึงหน้าจนขยับไม่ได้ชั่วขณะ หลังจากนั้นโบท็อกก็จะค่อยๆ ออกฤทธิ์ใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน แต่ไม่ต้องกังวล เป็นอาการปกติเท่านั้น ไม่มีอันตรายใดๆ
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ แลดูจางลง ผิวหน้าเต่งตึงขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นการออกฤทธิ์ และการเห็นผลจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของโบท็อกที่ฉีดเข้าไป และประสิทธิภาพของโบท็อกแต่ละยี่ห้อด้วย และหลังจากโบท็อกออกฤทธิ์ไปแล้ว ร่างกายก็จะสลายโบท็อกได้เอง โดยไม่ส่งผลอันตรายต่อเซลล์อื่นๆ ในร่างกายค่ะ
ฉีดโบท็อก ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
เบื้องต้นเราทราบกันแล้วว่าโบท็อกช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า และช่วยปรับรูปหน้าให้มีความกระชับขึ้นได้ แต่ความดีงามของโบท็อกยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะโบท็อกยังมีข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
- ฉีดโบท็อก ช่วยเติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า สาวๆ ที่มีความกังวลว่าร่องแก้มลึกเกินไป ทำให้หน้าดูแก่ สามารถไปฉีดเพื่อแก้ปัญหานี้ได้
- ฉีดโบท็อก ช่วยยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน
- โบท็อกฉีดได้กับทุกบริเวณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก หางตา มุมปาก ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า
- ฉีดโบท็อก ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กได้ โดยเน้นฉีดไปที่บริเวณกราม ขากรรไกร และแก้ม
- ประโยชน์ด้านการรักษาอื่นๆ นอกจากด้านความงาม เช่น ปวดหัวไมเกรน หนังตากระตุก กล้ามเนื้อคอเกร็ง เป็นต้น
ฉีดโบท็อกแต่ละจุดบนใบหน้า ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
เมื่อทราบข้อดีของโบท็อกกันไปแล้ว มาดูกันค่ะว่าเราฉีดโบท็อกแต่ละจุดบนใบหน้าตรงไหนได้บ้าง และการฉีดโบท็อกแต่ละจุดสามารถช่วยแก้เรื่องอะไรได้บ้าง เอาไว้พิจารณาว่าเราอยากจะฉีดจุดไหน เพื่อแก้ไขจุดที่ไม่มั่นใจบนใบหน้าของเราให้สวยเป๊ะตรงตามความต้องการกันค่ะ
- ฉีดโบท็อก ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
- ฉีดโบท็อก เติมเต็มร่องลึกที่หางตา
- ฉีดโบท็อก เติมเต็มร่องแก้ม
- ฉีดโบท็อก ลดขนาดกราม หน้าเล็กลง
- ฉีดโบท็อก ปรับลดขนาดปีกจมูก
- ฉีดโบท็อก ยกมุมปาก
- ฉีดโบท็อก ยกกระชับใบหน้า (เน้นฉีดบริเวณ กราม ขากรรไกร แก้ม)
ฉีดโบท็อกกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
บางคนอาจเข้าใจผิดว่าฉีดโบท็อกหลายครั้งถึงจะเห็นผล แต่ที่จริงแล้วการฉีดโบท็อกสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด หากการฉีดโบท็อกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พิจารณาได้จากหลายปัจจัย อาทิ ตัวยาที่เลือกใช้มีคุณภาพสูง ตำแหน่งที่ฉีด จำนวนโดสยาที่เหมาะสม แพทย์ที่ฉีดมีประสบการณ์ รวมถึงผู้รับบริการไม่มีปัญหาดื้อยาใดๆ โดยแต่ละตำแหน่งที่ฉีดจะใช้เวลาเห็นผลลัพธ์ต่างกัน ดังนี้
- ฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอยบริเวณต่างๆ บนใบหน้า ใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน
- ฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้า ใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
- ฉีดโบท็อกเพื่อลดขนาดกกราม ใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
ก่อนฉีดโบท็อก ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ใครที่ยังไม่เคยฉีดโบท็อก อาจจะมีความกังวลไม่น้อย และไม่ทราบว่าก่อนไปฉีดโบท็อก ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง สิ่งที่ต้องเตรียมไม่ยุ่งยากเลยค่ะ เพราะโบท็อกเป็นการเสริมความงามที่ไม่ต้องพักฟื้น ทาง YB Clinic มีคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก ดังนี้เลยค่ะ
- ศึกษาหาข้อมูลเลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ แพทย์มีประสบการณ์ และมีเคสรีวิวลูกค้าจริงให้ดู เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- ผู้รับบริการสามารถขอดูกล่องโบท็อกได้ เพื่อเช็คให้มั่นใจว่าเป็นของแท้ มีมาตรฐานจากอย.รับรองคุณภาพ
- ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้มีน้ำเกลือเจือจางมากเกินไป
- การฉีดโบท็อกแต่ละครั้ง สามารถฉีดได้พร้อมกันหลายจุด แต่ฉีดรวมกันทุกจุดแล้วไม่ควรเกิน 300 ยูนิต
- ระหว่างการฉีดควรมีการประคบเย็นเรื่อยๆ เพื่อลดการไหลของเลือด
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
โดยปกติแล้วหลังฉีดโบท็อกผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อก ตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด เมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย หากต้องการให้โบท็อกที่ฉีดไปอยู่ได้นานขึ้น เรามีข้อแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีด ดังนี้เลยค่า
- หลังฉีดโบท็อกควรงดแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีดไปก่อน อย่างน้อย 1 วัน
- งดนอนหงาย หรือนอนตะแคงหลังฉีด อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกายหนัก เพราะอาจทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าโดนความร้อน เช่น อาบน้ำอุ่น ซาวน่า ทำเลเซอร์ ประมาณ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะจะทำให้โบท็อกเสื่อมคุณภาพเร็ว
- งดนวดหน้า 2 สัปดาห์หลังฉีด เพราะอาจทำให้โบท็อกไหลไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่น ทำให้การเห็นผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- ประคบเย็นหลังฉีดจะช่วยลดอาการบวมแดงได้ดี อีกทั้งยังทำให้หน้าเข้ารูป
ฉีดโบท็อกราคาเริ่มต้นเท่าไหร่
ผู้ที่ยังไม่เคยรับบริการฉีดโบท็อกเสริมความงามคงจะสงสัยกันว่าฉีดโบท็อกแพงไหม ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ ทั้งนี้ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกที่เลือกใช้ และการจัดโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก สำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบท็อกที่ YB Clinic ฉีดโบท็อก ราคาเริ่มต้นที่หลักพันบาทเท่านั้น สามารถติดตามโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่นี่
ฉีดโบท็อก คลินิกไหนดี
ปัจจุบันการฉีดโบท็อกเป็นที่นิยม และมีคลินิกเสริมความงามให้เลือกใช้บริการมากมาย ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังอย่างมากในการเลือกรับบริการ โดยพิจารณาเลือกคลิกนิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาติถูกต้อง และทำการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น นอกจากนี้เราควรศึกษาการดูโบท็อกแท้เบื้องต้นเอาไว้ด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโบท็อกที่ฉีดไปเป็นของแท้ และปลอดภัย 100%
รีวิวฉีดโบท็อกที่ YB Clinic
YB Clinic เป็นคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน จดทะเบียนถูกต้องตามกฎกระทรวง สาธารณสุข มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ดูแลลูกค้าหลากหลายเคส เชื่อถือได้ และมีเคสรีวิวความพึงพอใจ ผลลัพธ์ของลูกค้าให้ชมเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับบริการ
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ YB Clinic ยินดีให้คำปรึกษาทุกท่านค่ะ